รีดเงินล้างหนี้กองทุนน้ำมัน ดันราคาน้ำมันไทยปรับขึ้น

กบน. สบช่องราคาน้ำมันตลาดโลกขาลง รีดเงินน้ำมันโปะกองทุนฯเร่งล้างหนี้ 1.2 แสนล้านบาท ทำราคาน้ำมันทุกประเภท ทั้งกลุ่มเบนซินและดีเซลขยับขึ้นสวนทางตลาดโลก ล่าสุด

 

เศรษฐศาสตร์

 

เก็บดีเซล 5.82 บาทต่อลิตร ย้ำชัดยังไม่ลดราคาดีเซลจากเพดาน 34.94 บาทต่อลิตรได้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาน้ำมันดิบและสำเร็จรูปในตลาดโลกที่อ่อนตัวลงต่อเนื่อง ส่งผลให้คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ทยอยเรียกเก็บเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันของน้ำมันทุกประเภทเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะน้ำมันดีเซล ที่ปัจจุบันเรียกเก็บเงินได้ถึง 5.82 บาทต่อลิตร ส่วนกลุ่มเบนซิน ทั้งแก๊สโซฮอล์ 95 และแก๊สโซฮอล์ 91 เก็บที่ 2.30 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์อี 20 และอี 85 เก็บที่ 0.51 บาทต่อลิตร ทำให้กองทุนน้ำมันเริ่มมีเงินไหลเข้าเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยที่ยังไม่ลดราคาขายปลีกให้ประชาชน ซึ่งจะช่วยลดภาระหนี้ ที่ปัจจุบันฐานะสุทธิกองทุนน้ำมันติดลบ 120,000 ล้านบาท เป็นบัญชีน้ำมัน ติดลบ 87,000 ล้านบาท บัญชีก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) ติดลบ 44,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ ในช่วงวิกฤติราคาพลังงานที่ผ่านมา กองทุนน้ำมัน ต้องจ่ายเงินอุดหนุนน้ำมัน โดยเฉพาะน้ำมันดีเซลที่ระยะแรกตรึงราคาไว้ไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร และต่อมาได้ขยับขึ้นเป็นไม่เกิน 35 บาทต่อลิตร แม้ว่าขณะนี้กองทุนน้ำมัน จะเรียกเงินจากผู้ใช้น้ำมันดีเซลเข้าไปสะสมในกองทุนน้ำมันได้กว่า 5 บาทต่อลิตร แต่ยังไม่สามารถลดราคาขายปลีกให้ประชาชนได้ จากที่ตรึงราคาไว้ที่ 35 บาทต่อลิตร เพราะจำเป็นต้องเร่งสะสมเงินเพื่อลดภาระหนี้เป็นลำดับแรกก่อน ประกอบกับ

ขณะนี้ยังมีการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลอีก 5 บาทต่อลิตร และจะสิ้นสุดวันที่ 20 ม.ค.66 หากไม่มีภาษีดังกล่าว ราคาก็จะยังคงอยู่ที่ 35 บาทต่อลิตรเช่นเดิม

ขณะเดียวกัน ในช่วงที่ราคาน้ำมันตลาดโลกลดลง กบน.ได้บริหารจัดการด้วยการเรียกเก็บเงินจากประชาชนเข้าไปสะสมในกองทุนน้ำมัน ยกเว้นแอลพีจี ที่กองทุนน้ำมันยังคงอุดหนุนอยู่ที่ 9.72 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) แต่ถือว่าเริ่มลดลง จากช่วงที่ผ่านมาที่อุดหนุนสูงถึง 10 บาทต่อ กก.